5 ประเด็นเด็ด หงส์แดง ถล่ม บอร์นมัธ กระจุย 9-0

หงส์แดง

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 ความเคลื่อนไหวก่อนเกมที่ ดูบอลสด ลิเวอร์พูล อันดับ 16 ของลีก จะเปิด แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ อันดับ 15 ของลีก ในเกมที่ 4 ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในซีซั่น 2022-23 นี้

มี 1 สถิติที่น่าสนใจมากฝากกันนับตั้งแต่ที่ ลิเวอร์พูล ได้ เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือสัญชาติเยอรมัน มาเป็นนายใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 เป็นต้นมา “หงส์แดง” ก็พบกับ บอร์นมัธ ไปแล้วทั้งหมด 10 เกมด้วยกัน และ มีผลงานที่ดีมากๆ ชนะ 8 เสมอ 1 และแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แทงบอล เกมที่แพ้เกิดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2016 ซึ่งเกมนั้นทัพ “หงส์แดง” ของ เยอร์เกน คลอปป์ บุกไปพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 3-4 ทั้งที่นำไกลถึง 3-1 ซึ่งจากทีมที่แพ้ในเกมนั้น มีเพียงแค่ 3 รายเท่านั้นที่ยังอยู่กับทีมในชุดปัจจุบันประกอบไปด้วย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลต์ และ โรแบร์โต เฟอร์มิโน

หลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มเก่ง ระบายความอัดอั้น เปิดบ้านไล่ถล่ม บอร์นมัธ ไปแบบขาดลอย 9-0 คว้าชัยชนะเกมแรกในศึกพรีเมียร์ลีก 2022/23 ได้สำเร็จแล้วรู้หรือไม่ ลิเวอร์พูล ในยุค เยอร์เกน คลอปป์ เคยโดน บอร์นมัธ ยิงใส่ถึง 4 ประตู และเป็นครั้งเดียวที่ “หงส์แดง” ปราชัยต่อทีมนี้

ประเด็นเด็ด หงส์แดง ขึ้นนำเร็ว สกอร์เลยไหลเป็นน้ำ

หงส์แดง ถล่ม บอร์นมัธ

ก่อนเกม แฟนบอล “หงส์แดง” ข่าวฟุตบอลออนไลน์  หลายคนกังวลรูปเกมที่ออกมาน่าจะอึดอัดสำหรับเจ้าถิ่น ทว่า ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะปลดล็อค หลัง หลุยส์ ดิอาซ โหม่งประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 3 และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ มายิงสุดสวย

ในนาทีที่ 6 ช่วยทีมขึ้นนำ 2-0 อย่างรวดเร็ว จากนั้นทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเข้าทาง ลิเวอร์พูล ไปทั้งหมด เล่นด้วยความไม่กดดัน ไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นดีไปหมด นักเตะแต่ละคนเริ่มมั่นใจมากยิ่งขึ้น จนสกอร์ไหลไปถึง 9-0 อย่างที่เราเห็นกัน

ฟีร์มิโน่ ร่างทองกลับมาแล้ว

5 ประเด็นเด็ด หงส์แดง

เกมนี้ ถ้า ข่าวนักบอล น่าสน ดาร์วิน นูนเญซ ไม่ติดโทษแบน เราน่าจะไม่ได้เห็น โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ลงสนามอย่างแน่นอน และเมื่อได้รับโอกาสแล้ว ดาวยิงบราซิลก็แสดงให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ และเหล่าเดอะค็อป เห็นแล้วว่า เขายังเป็นยอดกองหน้าแห่งถิ่นแอนฟิลด์เสมอ

เกมนี้ ฟีร์มิโน่ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมาก อยู่ถูกที่ถูกเวลาไปหมด นอกจากจะยิง 2 ประตู และทำสถิติยิงครบ 100 ลูกให้กับ ลิเวอร์พูล แล้ว

เขายังทำแอสซิสต์ให้กับเพื่อนได้อีก 3 ครั้ง เรียกว่ากว่าครึ่งของสกอร์ที่เกิดขึ้น เขามีส่วนร่วมทั้งหมด และการยิงประตูในเกมนี้ ก็ทำให้ ฟีร์มิโน่ กลับมายิงประตูในสนามแอนฟิลด์ได้อีกครั้ง หลังจากไม่สามารถยิงได้เลย จากเกมพรีเมียร์ลีก 20 นัดก่อนหน้านี้

โรแบร์โต เฟอร์มิโน่ ตำนานfalse 9 เกมนี้คืนชีพอีกครั้ง การเคลื่อนที่ทำได้ดีมากๆ การขยับถอยลงมารับบอลตรงกลาง ทำให้หลุดจากตัวประกบ และเปิดพื้นที่ด้านบนให้เพื่อนวิ่งสอดขึ้นไปทำประตู วันนี้เก็บบอลไว้กับตัวได้ดีมาก

สามารถเลือกจ่ายในจังหวะที่เพื่อนได้เปรียบมีโอกาสยิงประตูได้ทันที ส่วนจังหวะจบสกอร์ก็เด็ดขาดขึ้นเยอะ เป็นนักเตะคนสำคัญที่ปลุก หงส์แดง ให้ตื่นขึ้นมาในเกมนี้อีกครั้ง

เอลเลียตต์ - คาร์วัลโญ่ เริ่มนับหนึ่ง

นับตั้งแต่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ย้ายจาก ฟูแล่ม มาค้าแข้งให้กับ “หงส์แดง” ตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2019 เจ้าตัวยังไม่สามารถยิงประตูในเกมพรีเมียร์ลีก ให้กับทีมได้เลย จะมีแค่ในแมตช์ เอฟเอ คัพ 2021/22 เท่านั้น

แต่ทุกอย่างก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อเจ้าตัวมายิงประตูสุดสวยให้กับทีมขึ้นนำ 2-0 และเมื่อวินาทีที่ลูกพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย กองกลางวัย 19 ปี ก็ระเบิดอารมณ์ความดีใจ ถึงขนาดหลั่งน้ำตาแห่งความปีติออกมาเลยทีเดียว

เช่นเดียวกับ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ดาวรุ่งคนใหม่ของทีม ที่เกมนี้ถูกส่งลงมาเป็นสำรอง โดยมาแทน เอลเลียตต์ และเจ้าหนูวัย 19 ปี ก็ตอบแทนความไว้วางใจของ คล็อปป์ ด้วยการซัดประตูให้ทีม ขึ้นนำ 8-0 และนี่ก็ถือว่าเป็นการส่งชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดครั้งแรก ในศึกพรีเมียร์ลีก ของดาวเตะโปรตุเกส

ประเด็นเด็ด หงส์แดง ไม่มีชื่อ ซาลาห์ บนสกอร์บอร์ด

หากบอกว่า สกอร์ 9-0 ที่ ลิเวอร์พูล เปิดรังถล่ม บอร์นมัธ ได้ ไม่มีชื่อของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นผู้ทำประตูเลย มันคงเป็นเรื่องที่ตลกร้ายอย่างมาก ทว่ามันเกิดขึ้นจริง เสียด้วย ทั้ง 9 ลูกที่เกิดขึ้น นอกจากไม่มีชื่อเป็นยิงประตูแล้ว ซาลาห์ ก็ไม่มีส่วนร่วมใน 9 ประตูนี้เลย แอสซิสต์ไม่มี ยิงก็ไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมาก สำหรับดาวยิงอันดับหนึ่งของทีม

ที่ผ่านมา ดาวเตะอียิปต์ ถือว่าถูกโฉลกกับการยิง บอร์นมัธ อย่างมาก เนื่องจากการเจอกัน 6 นัดล่าสุด เขายิงได้มากถึง 8 ประตู แถมยังทำแฮตทริกใส่มาแล้ว ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนธันวาคม 2018 ทว่าในเกมนี้ ซาลาห์ กลับไม่สามารถใส่ชื่อตัวเองบนสกอร์บอร์ดได้ ไม่ว่าจะยิงจ่อๆ ยิงไกล ก็ไม่เป็นประตูแม้แต่ลูกเดียว กลายเป็น ฟีร์มิโน่ ที่ฉายแสงในเกมนี้แทน

เกือบสร้างสถิติใหม่พรีเมียร์ลีก

ในประวัติศาสต์พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน สกอร์ที่ชนะกันขาดลอยมากที่สุด คือ 9-0 โดยก่อนหน้านี้มี 3 แมตช์ที่เกิดขึ้น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 9-0 (ปี 2021)
เลสเตอร์ ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 9-0 (ปี 2019)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ อิปสวิช 9-0 (ปี 1995)

และในเกมนี้ เมื่อ ลิเวอร์พูล ยิงขึ้นนำ 9-0 เหล่าบรรดาแฟนๆ ก็ลุ้นว่าทีมรักจะสร้างสถิติใหม่เกิดขึ้นมาได้หรือไม่ เพราะในตอนนั้นยังเหลือเวลาในเกมถึง 5 นาที และยังมีช่วงทดเวลาเจ็บอีก ซึ่งถ้า “หงส์แดง” เร่งเครื่องจริงๆ ก็น่าจะทำประตูเพิ่มได้อีก

ทว่าจนแล้วจนรอด ยอดทีมแห่งแอนฟิลด์ ก็ไม่สามารถยิงเพิ่มได้ ชวดสร้างสถิติใหม่ แต่ถึงอย่างไรเสีย ลิเวอร์พูล ก็มีชื่อขึ้นไปอยู่ในทำเนีบบ ทีมที่ชนะด้วยสกอร์ที่ขาดลอยที่สุด เทียบเท่ากับสถิติเดิม ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าสุดยอดอย่างมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *